กลั้นน้ำตาไม่อยู่! ซลาตัน ปล่อยโฮกลางงานแถลงข่าว(คลิป)
23 มีนาคม 2564, 15:20 น. · 265
ข่าวฟุตบอลล่าสุด หัวหอกจอมเก๋าของ เอซี มิลาน ถึงกับร้องไห้ในตอนที่พูดถึงเรื่องความรู้สึกของครอบครัวเกี่ยวกับการที่ตนหวนรับใช้ทีมชาติสวีเดน พร้อมบอกว่าช่วงที่รีไทร์จากทีมชาติไปนั้นตนคิดอยู่เสมอว่าน่าจะสามารถช่วยทีมได้บ้าง
ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กองหน้าประสบการณ์สูงของ เอซี มิลาน ยอดสโมสรแห่งเวที กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ถึงขั้นร้องไห้ในระหว่างที่พูดถึงเรื่องที่ว่าครอบครัวของเขาคิดยังไงกับการที่กลับมาเล่นให้ทีมชาติสวีเดน
อิบราฮิโมวิช ถือเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของ สวีเดน ด้วยการทำไป 62 ประตูจากการลงเล่น 116 นัด ก่อนที่จะประกาศอำลาการรับใช้ชาติไปตอนจบศึก ยูโร ปี 2016 อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่กี่วันก่อน สวีเดน ทำให้หลายคนฮือฮาด้วยการใส่ชื่อเขาอยู่ในทีมชุดที่จะเจอกับ โคโซโว และ จอร์เจีย ในเกม ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก วันที่ 25 กับ 28 มีนาคมนี้ ตามลำดับ รวมถึงเกมอุ่นเครื่องกับ เอสโตเนีย ในวันที่ 31 มีนาคมด้วย ก่อนที่แข้งวัย 39 ปีจะโพสต์ข้อความลง ทวิตเตอร์ ว่าตนกลับมาเล่นให้ทีมชาติแล้วจริงๆ
ทั้งนี้ ล่าสุด อิบราฮิโมวิช มาร่วมงานแถลงข่าวของทีมชาติ ซึ่งช่วงหนึ่งมีคนถามว่า มักซิมิเลี่ยน กับ วินเซนต์ ลูกชาย 2 คนของเขาคิดยังไงที่เขาตัดสินใจกลับมาเล่นให้ สวีเดน และเจ้าตัวก็ตอบว่า "วินเซนต์ ร้องไห้ในตอนที่ผมจากเขามา" ก่อนที่เจ้าตัวจะหลั่งน้ำตาออกมา
อิบราฮิโมวิช เสริมว่าที่ผ่านมาตนตามดูเกมของ สวีเดน อยู่เสมอ พร้อมรู้สึกว่าน่าจะช่วยทีมได้ด้วย "การได้เล่นให้ทีมชาติถือเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ในฐานะนักเตะ และผมก็ตามดูเกมของพวกเขามาโดยตลอด ลึกๆ แล้วในใจของผมน่ะผมรู้สึกว่าผมสามารถช่วยพวกเขาได้ ผมคิดว่าผมสามารถทำบางอย่างได้ แน่นอนว่ามันไม่ได้ขึ้นอยู่กับผมแค่คนเดียว มันต้องเกิดจากการรวมกันของสิ่งที่นักเตะต้องการกับสิ่งที่คนเป็นโค้ชต้องการ"
"ตอนนี้ผมมีโอกาสที่จะได้เล่นให้ประเทศของผม และผมก็ทำมันด้วยความรู้สึกที่เป็นเกียรติอย่างมาก แต่ผมไม่ได้มาที่นี่ด้วยความรู้สึกแค่นั้นเพียงอย่างเดียว มันฟังดูเหมือนผมมีความสุขมากๆ ที่ได้มาอยู่ที่นี่ แต่ผมก็ตั้งเป้าที่จะได้ผลการแข่งขันที่ดีด้วย ผมเล็งที่จะเอาผลการแข่งขันที่ดีมาให้โค้ช, เพื่อนร่วมทีม และคนทั้งประเทศ ต่อให้ตอนนี้ผมจะพูดใหญ่โตมากแค่ไหน แต่ถ้าผมไม่สามารถทำให้ทีมมีผลการแข่งขันที่ดีได้แล้วน่ะทุกอย่างที่ผมพูดมันก็ไม่มีความหมายอะไรทั้งนั้น"
— ESPN FC (@ESPNFC) March 22, 2021